พระครูภาวนาวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อพระมหาพันธ์ สิลวิสุทโธ)วัดเนรมิตวิปัสสนา
วัดเนรมิตวิปัสสนา ตั้งอยู่ในอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย วัดตั้งอยู่สูงเด่นอยู่บนเนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรัก
วัดเนรมิตวิปัสสนาตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2521 โดยพระครูภาวนาวิสุทธิญานหรือ หลวงพ่อมหาพันธ์สีลวิสุมโธเจ้าอาวาสรูปแรก
แต่เดิมวัดมีชื่อว่า "วัดหัวนายูง" ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดเนรมิตวิปัสสนา" ในปี พ.ศ. 2521 ขณะหลวงพ่อมหาพันธ์สีลวิสุทโธ
จำพรรษาอยู่ที่วัดจำปาจังหวัดสุรินทร์ (บ้านเกิด) ท่านได้ปรารภในที่ประชุมสงฆ์ว่า ท่านจะออกธุดงค์เดินทางไปเรื่อยไม่พำนักเป็น
หลักแหล่งถาวร แต่ที่ประชุมมีความเห็น พ้องกันว่าหลวงพ่อมีอายุมากเกรง ว่าจะได้รับความลำบากอยากให้ท่านมีที่พำนักถาวรจะ
ได้เป็นที่อาศัยเป็นเนื้อนาบุญแก่ญาติโยมทั้งหลายซึ่งหลวงพ่อเองก็เห็นชอบด้วยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2522 หลวงพ่อเป็น
ประธานออกเดินธุดงค์พร้อม ด้วยคณะสงฆ์อุบาสกอุบาสิกาได้เดินทางไปพำนักอยู่ที่พระธาตุศรีสองรักระหว่างนั้นหลวงพ่อได้
ตัดสินใจหาสถานที่เป็นหลักแหล่งมั่นคงถาวรโดยเลือกเอาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติซึ่งถูกชาวบ้าน บุกรุกเพื่อทำไร่เผาถ่านจนมี
ลักษณะเป็นที่โล่งเตียนเหมือนภูเขาหัวโล้นที่เรียกว่าภูเปือยซึ่งทางวัดได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยได้เมื่อตั้ง
วัดขึ้นจึงได้ปลูกป่าอนุรักษ์ให้คงสภาพเดิมมาก ที่สุดเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2522 หลวงพ่อและคณะได้ปักกลด อยู่ ณ ที่ตั้งวัด
พร้อมกับเร่งดำเนินการปลูกสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวขึ้นจากนั้นจึงทำการปรับพื้นที่ปลูกสร้างถาวรวัตถุและในปีพ.ศ. 2529
ได้ร่วมกันสร้างอุโบสถภายในวัดขึ้น มีขนาดกว้าง 40 เมตรยาว 40 เมตร
วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2540 หลวงพ่อท่านได้มรณภาพภาพลง แต่ ร่างของท่านไม่เน่าเปื่อยปัจจุบันถูกเก็บอยู่ในมณฑป
ด้านหลังอุโบสถหลังจากที่หลวงพ่อมรณภาพพระครูภาวนาวิสุทธาภรณ์เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันได้รับเป็นประธานดำเนินการก่อสร้าง
ต่อพร้อมด้วย บรรดาคณะศิษยานุศิษย์พระภิกษุสามเณรข้าราชการทหาร ตำรวจพ่อค้าและประชาชนชาวอำเภอด่านซ้าย
ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 197 ล้านบาทใช้เวลาก่อสร้าง 14 ปีจึงแล้วเสร็จต่อมาในปี พ.ศ. 2549 วัดหัวนายูง
เปลี่ยนชื่อเป็นวัด เนรมิตวิปัสสนา
พระอริยสงฆ์หลวงปู่มหาพันธ์ สีลวิสุทโธ หรือ พระครูภาวนาวิสุทธิญาณ...พระอริยสงฆ์ผู้มีศิล สมาธิที่แก่กล้า บรรลุธรรมชั้นสูง
ปลุกเสกผ้าขาวขอดแจกให้ลูกศิษย์ลูกหามากมาย ต่างเดินทางมากราบขอบารมีจากท่านมิได้ขาด จนกระทั้งท่านละสังขาร
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2540